Product

Mini Mechanical (2-4 Cars)

Semi Automated (5-80 Cars)

Fully Automated (80 Cars up!)

ข่าวสารประชาสัมพันธ์

Q&A

Q&A ระบบ Smart Park Robot

   ลูกค้าสามารถดาวน์โหลด คำถาม-คำตอบ เกี่ยวกับ "ระบบ Smart Park Robot" ได้ที่ปุ่ม Downloade PDF ด้านบน

 

 

Q&A ระบบ Smart Park Robot

1 ในการเลือกระบบจอดรถอัตโนมัติ ระบบไหนเหมาะกับ project ที่สุด

"A ต้องรู้ก่อนว่าความต้องการเราเป็นอย่างไร เช่น จำนวนที่จอด, traffic เท่าไหร่, จอดรถแบบไหนมากสุด, งบประมาณมีเท่าไหร่,   ต้องการออกแบบระบบให้ประหยัดหรือ ต้องการออกแบบระบบให้มีประสิทธิภาพสูงสุด จึงสามารถออกแบบให้เหมาะสมตามความต้องการได้ครับ 

 

แต่หากยังไม่แน่ใจ ทางเราสามารถให้คำแนะนำเบื้องต้น ในความแตกต่างของแต่ละระบบ รวมถึง ข้อดี-เสีย ความหมาะสมกับโครงการ และระยะเวลาใช้งานคร่าวๆ""

 

2 ในการนำระบบจอดรถอัตโนมัติมาใช้ มีหลักเกณฑ์ อย่างไร

"A โดยทั่วไป ระบบจอดรถอัตโนมัติ จะนำมาใช้ในการจอดรถขนาดปกติที่มีจำนวนมากในท้องถนน คือรถขนาดไม่เกิน 2,350 กิโลกรัม ถ้าเป็นรถที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ ควรที่จะมีช่องจอดแบบ conventional ไว้รองรับด้วย"

 

3 ระบบจอดรถอัตโนมัติ แบบ Fully สามารถรองรับรถได้จำนวนเท่าไหร่

"A โดยมากแล้ว หนึ่งระบบจะประกอบด้วย หนึ่ง elevator, หนึ่ง shuttle, หนึ่ง robot และ 1.5 – 2 Car entry exit. จะสามารถรองรับรถได้ 60-80 คัน ถ้าโครงการที่ใหญ่ขึ้นและต้องการใช้โรบอท 2 ตัว แนะนำให้ออกแบบ Entry/Exit ไว้ที่ 3-4 ห้อง "

 

 

4 ระบบจอดรถอัตโนมัติ Smart Park จะโหลดระบบฐานรากของโครงการเรามากแค่ไหน เมื่อเทียบกับระบบอื่น

A ระบบSmart Park Robot น้ำหนักของ stand ในแต่ละที่จอดจะเบามาก(ประมาณ 60 กิโลกรัม) เมื่อเทียบกับระบบ ถาด ซึ่งมีน้ำหนักถึง 200-300 กิโลกรัม ต่อหนึ่ง ถาด ต่อหนึ่งที่จอด

 

5 การก่อสร้างอาคารจอดรถอัตโนมัติ ใต้ดิน บนดิน อย่างไหนประหยัดกว่ากัน

A ราคาของระบบจอดรถอัตโนมัติ ไม่ว่าจะติดตั้ง ใต้ดินหรือบนดิน ไม่แตกต่างกัน แต่ค่าก่อสร้างงาน civil ระบบใต้ดินจะแพงกว่าบนดินมาก

 

 

6 ระหว่างอาคารจอดรถใต้ดิน แบบโครงเหล็ก กับแบบ คสล. แบบไหนจะเหมาะกว่ากัน

A แนะนำว่าใช้ แบบ คสล. จะเหมาะกว่าในแง่ของ การติดตั้งที่ง่ายกว่า แบบโครงเหล็ก

 

 

7 ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา เมื่อเทียบกับระบบ ถาด

"A ระบบ  Smart Park Robot จะมีค่าบำรุงรักษาที่ถูกกว่ามาก ระบบของเรามีส่วนเคลื่อนไหวเพียงแค่ entry-exit, elevator, shuttle, และ robot  แต่ระบบ ถาด จะมีส่วนประกอบที่ซับซ้อนมากกว่าคือ ใต้ทุก ถาด จะมีล้อถึง 8-12 ล้อต่อ ถาด ยิ่งกว่านั้น จากการที่ระบบของ Smart Park เป็นระบบที่ง่ายต่อการดูแล จึงทำให้เสียเวลาในการดูแลและบำรุงรักษาน้องกว่่าระบบอื่น ๆ เท่ากับไปเบียดเวลาใช้งานของระบบน้อยที่สุด"

 

8 ทำไม ระบบจอดรถอัตโนมัติ Smart Park Robot ถึงเหมาะสมกับอาคารชนิดต่างๆในปัจจุบัน

A เนี่องจากระบบของเราต้องการพื้นที่เพียง 15-19 ตร.ม. ต่อรถหนึ่งคัน ซึ่งเมื่อเทียบกับอาคารจอดรถทั่วไป จำเป็นต้องมีพื้นที่ถึง 30-45 ตร.ม ต่อรถหนึ่งคัน จะเห็นว่าระบบของเราจะใช้น้อยกว่าอาคารจอดรถแบบเก่าที่มีแลมป์ทั่วไปมาก ประหยัดพื้นที่และประหยัดโครงสร้าง อีกทั้งไม่จำเป็นต้องมีงานระบบดับเพลิง ห้องน้ำ เพราะผู้จอดไม่ได้เข้ามายังที่จอดรถ หยุดอยู่เพียงแค่ลิฟท์ ด้วยความหลากหลายในระบบของ Smart Part มีการผสมผสานอย่างชาญฉลาดของระบบทางเข้า ระบบลิฟท์รับรถ ระบบลิฟท์ขนรถภายใน ทำให้สามารถจัดให้มีช่องจอดรถมากที่สุดในพื้นที่เดียวกันเมื่อเทียบกับระบบจอดรถอัตโนมัติอื่นๆ ทุกระบบ

“ พื้นที่จอดรถที่ลดลง = พื้นที่ขายที่เพิ่มขึ้น= มูลค่า/กำไรของโครงการที่เพิ่มขึ้น”

 

 

9 ระบบจอดรถอัตโนมัติ Smart Park Robot จะทำลายยางรถยนต์ หรือล้อแม็คของผู้ใช้หรือไม่

A ระบบของเราจะไม่ทำลายยางรถยนต์ และล้อแม็คของผู้ใช้ เนื่องจากเราใช้โรบอทระบบช้อนรถขึ้นมาจากแท่น stand โดยช้อนจากส่วนยางด้านล่าง ไม่ใช่การหนีบล้อเช่นระบบอื่น และมีการปรับศูนย์จากภายในไม่ทำลายความสวยงามของอุปกรณ์ตกแต่งรถยนตร์ที่ยื่นออกมา

 

10 ระบบจอดรถอัตโนมัติ  Smart Park Robot ต้องการระยะความสูงของ พื้นถึงเพดานในที่จอดแต่ละคันสูงหรือไม่เมื่อเทียบกับระบบ Robot ขาหุบไม่ได้

A ระบบของเราจะใช้แท่น stand ที่เตี้ยกว่า โดยมีความสูงเพียง 13 ซม. Stand จะยึดติดกับพื้นโครงสร้างคอนกรีต ซึ่งจะทำให้เกิดมั่นคงกว่าระบบ Robot ขาหุบไม่ได้หรือโรบอทแขนตาย (stand ของระบบแขนตายนี้มีโอกาสที่จะตกท้องช้างได้สูงกว่าเพราะน้ำหนักรถที่กดทับเป็นประจำ) ระบบสมาร์ทพาร์คโรบอทจะใช้ความสูงสำหรับ 1 ที่จอดเพียง 1.75 เมตร โดยประมาณสำหรับขนาดรถมารตฐาน

 

 

11 การปรับสมดุลของรถในระบบจอดรถอัตโนมัติมีความจำเป็นหรือไม่

A มีความจำเป็นอย่างมาก ต่ออายุการใช้งานของตัวระบบเอง และ ต่อความปลอดภัยของรถยนต์ที่เข้ารับบริการอยู่ในระบบ

 

12 ระบบไหนไม่มีการปรับสมดุลบ้าง แล้วระบบนั้นใช้วิธีไหนในการทำให้ได้สมดุล

A ระบบ ถาด ไม่มีการปรับสมดุลของรถยนต์เนื่องจากรถนั้นตั้งอยู่บน ถาด ตลอดเวลา ระบบนี้จึงพยายามแก้ไขสิ่งด้อยนี้ด้วยการทำประตูทางเข้าให้แคบ เพื่อเป็นการบังคับรถที่เข้ามาในระบบให้ตรงที่สุด หรือสมดุลที่สุด ซึ่งทำให้ผู้ใช้รถขับเข้าช่อง car entry-exit ด้วยความชำนาญอย่างสูง และเป็นการเสียเวลาในการตั้งลำรถอย่างมาก

แต่ระบบของเรา มีเซ็นเซอร์วัดขนาดรถ และปรับสมดุลให้เองอัตโนมัติ  จึงไม่จำเป็นต้องทำทางเข้าให้แคบ ซึ่งจะส่งผลให้ลำบากต่อผู้ใช้งาน และยังมีความปลอดภัยต่อตัวรถยนต์มากกว่า

 

 

13 ระบบจอดรถอัตโนมัติ Smart Park Robot จะมีโอกาสทำให้ระบบเครื่องยนต์หรือเกียร์หรือตัวถังของรถยนต์ในระบบได้รับความเสียหายหรือไม่ เมื่อเทียบกับระบบ Robot อื่นๆ

A การทำงานของระบบเรา มีความมั่นคงและเสถียรมากกว่า ระบบ Robot อื่นๆ  ระบบของเราใช้การช้อนล้อรถยนต์ ไม่ใช่การหนีบล้อ ซึ่งมีโอกาสทำให้ล้อรถที่มาใช้บริการหมุนประมาณ 10-15 องศาทุกครั้ง ส่งผลให้ระบบเกียร์รถยนต์อัตโนมัติได้รับความเสียหาย แต่ของเรานั้นปลอดภัย รวมทั้งระบบของเรามี แท่น stand รองรับล้อรถยนต์ที่มั่งคงกว่าระบบ Robot แขนหุบไม่ได้ ทำให้โอกาสของการชนของ Smart park Robot กับแท่น Stand แทบจะไม่มีเลย

 

 

14 ระบบจอดรถอัตโนมัติ Smart Park Robot จะทำให้ระบบกันขโมยที่ติดตั้งอยู่ในรถร้องเสียงดังรบกวนในช่วงนำรถเข้าออกหรือไม่

"A ไม่ครับ ระบบของเราเป็นระบบที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน เป็นที่นิยมในต่างประเทศ การเคลื่อนย้ายนุ่นนวล จึงไม่ทำให้ระบบกันขโมยที่ติดตั้งในรถแต่ละคันทำงานจนเกิดเสียงดัง"

 

15 ทำไมต้องเลือกระบบจอดรถอัตโนมัติ Smart Park Robot

A "เพราะเป็นระบบที่ทันสมัยที่สุด มีความรวดเร็วในการจัดเก็บรถมากที่สุด ซึ่งตอนนี้มีขายแห่งเดียวในประเทศไทยตามสิทธิบัตร, การซ่อมบำรุงต่ำ, มีความเสถียรและมีความปลอดภัยต่อรถยนต์สูงสุดเมื่อเทียบกับระบบอื่นๆ ข้อเสียเหล่านี้จึงได้รับการแก้ไข ระบบของเรารวบรวมข้อดีและแก้ไขข้อเสีย และได้พัฒนามาจากระบบ Robot อื่นๆ แล้ว จึงมั่นใจได้ ทั้งยังเป็นระบบหุ่นยนตร์ยื่น หุบแขนได้ โดยหุ่นยนตร์เป็นตัวคอยรับรถยนตร์และสัมผัสกับล้อรถ โดยจะช้อนล้อขึ้นอย่างนุ่มนวล รถสั่นสะเทือนน้อยมาก ปลอดภัยกับตัวรถ เสียงเบา ไม่ทำให้สัญญาณกันขโมยดัง"

 

"อีกทั้ง Smart Park ยังมีรูปแบบเทคโนโลยีให้เลือกมากกว่า กล่าวคือ มีลิฟท์รับรถให้เลือก 12 แบบ, Shuttle 4 แบบ และระบบกลับรถ (turning system) ถึง 5 แบบ ทำให้ออกแบบระบบจอดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดหลากหลายตามที่ต้องการ"

 










16 ในการคำนวณเพื่อออกแบบ ต้องใช้พื้นที่เท่าไหร่ต่อที่จอดรถหนึ่งคัน

A ใช้ความกว้างเพียง 2.2 เมตร ยาว 5.6 เมตร สูง 1.75 เมตร ทางวิ่งของ Shuttle ระหว่างช่องจอด กว้าง 5.6 เมตร

ความกว้างของช่องจอดที่ 2.2 เมตร สามารถใส่รถที่มี Body รถไม่รวมกระจกมองข้างที่ 1.90 เมตร และถ้ารวมกระจกมองข้างแล้วจะรับรถได้ที่ขนาดความกว้างถึง 2.1 เมตร ในกรณีที่ต้องการจอดรถ SUVหรือรถที่มีความสูงพิเศษ การคิดระยะเคลียร์พื้นถึงฝ้าเพดาน คือ ความสูงรถ + 0.17 เมตร ตย.เช่น รถมีความสูง 1.85 เมตร ความสูงฝ้าที่ต้องเว้นระยะไว้ขั้นต่ำที่สุด คือ 1.85+0.17= 2.02 เมตร

 

 

17 ผลิตในประเทศใด

"A ส่วนประกอบสำคัญที่สุดที่มีสิทธิบัตรคุ้มครองคือ โรบอท ผลิตในประเทศอิตาลีโดยใช้แบรนด์ Elecon ได้มาตรฐานสินค้าจากยุโรป CE (Confirmite European) ส่วนประกอบอื่นๆ ผลิตในจีนโดยโรงงานที่ได้มาตรฐาน ISO 9001:2008 กำลังการผลิตประมาณ 30,000 ที่จอดรถต่อปี"

 

18 ถ้ามีทางเข้าออกหลายทาง รถที่ลงไปจอดจำเป็นต้องออกทางเดิมหรือไม่

A ไม่จำเป็น สามารถออกทางใดก็ได้ คือเข้าทางหนึ่ง ออกอีกทางหนึ่งได้ ทำให้สะดวกต่อผู้ใช้งาน

ทั้งนี้ระยะที่ใช้ในการออกแบบห้องรับรถ (Entry/Exit room) ควรอยู่ที่ 5800x3100x2400

 

19 สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับระบบอัตโนมัติ การใช้งานของระบบยากง่ายแค่ไหนในการเข้าจอดและรับรถ

A ระบบของเรามีความสะดวกและปลอดภัยมาก ผู้จอดเพียงขับเข้ามาในลิฟท์ ไม่ต้องตั้งศูนย์ให้ตรง จะมีระบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติทำงานเพื่อปรับศูนย์ให้รถอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง จากนั้นก็ดับเครื่อง เก็บของ และออกจากลิฟท์ไปสแกนบัตรได้เลย (ประตูลิฟท์ปิดหลังสแกน) สะดวกต่อผู้ที่มีสัมภาระเยอะหรือผู้ที่มีเด็กเดินทางมาด้วย การรับรถก็สะดวกและรวดเร็ว สามารถรอรับรถได้ไม่เกิน 2 นาที

 

20 ราคาโดยประมาณต่อคัน ของระบบนี้

"A ขึ้นอยู่กับขนาด/ลักษณะของพื้นที่ จำนวนชั้นจอด จำนวนของลิฟท์และความต้องการของโปรเจคว่าต้องการ Speed ในการนำรถเข้าจอดเร็วแค่ไหน โดยปกติเราจะเป็นผู้ออกแบบระบบให้เหมาะสมตามความต้องการและงบประมาณ ราคาจึงแตกต่างกันไปในแต่ละโปรเจค โดยมารตรฐาน 1 โรบอทควรใช้กับที่จอด 60-80 คัน ส่วนในโปรเจคที่ต้องการความประหยัด 1 โรบอทสามารถใช้กับจำนวนรถ 90-110 คัน ราคาในเกณฑ์นี้จะตกอยู่ที่ 280,000-350,000 บาทต่อคัน แต่ถ้าต้องการให้ได้ประสิทธิภาพมาก ความเร็วสูง 1 โรบอทกับรถ 40-60 คัน ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นตามประสิทธิภาพที่ต้องการ"

 

 

21 ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาโดยประมาณต่อปี

"A ขึ้นอยู่กับขนาดของระบบและการใช้งานว่ามีการใช้มากน้อยแค่ไหน ในกรณีศึกษาของโปรเจค 180 คันและ 320 คัน Smart Park Robot ใช้ค่าดูแลหลังติดตั้ง ประมาณ1,600-1,850 บาท ต่อคัน ต่อปี ในช่วง 10 ปีแรกของการใช้งาน"

 

 

22 ตัวโรบอทมีการทำงานโดยละเอียดเป็นอย่างไร และสามารถซ่อมแซมได้หรือไม่ในกรณีที่เสีย

"A โรบอทเป็นเครื่องจักรที่สามารถยื่นแขนได้และขับเคลื่อนได้ ควบคุมการทำงานโดยระบบคอมพิวเตอร์ แขนของโรบอทจะหุบตอนที่ระบบเคลื่อนตัว พอถึงช่วงหยุดรับรถโรบอทจะอ้าแขนทั้ง 2 ข้างออกเพื่อช้อนล้อรถยนต์ทั้ง 4 ล้อและยกรถขึ้น เป็นการเคลื่อนย้ายรถอย่างนุ่มนวล ในกรณีที่โรบอทเสีย โรบอทตัวอื่นสามารถไปช่วยเหลือได้ ไม่ทำให้รถติดค้าง ส่วนประกอบสำคัญของโรบอท คือ ล้อ, โซ่และระบบไฟฟ้า สามารถซ่อมแซมและแปลี่ยนอะไหล่ได้ ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชม. หากระบบคอมพิวเตอร์เสีย มีความคลาดเคลื่อน สามารถใช้อุปกรณ์ต่อพ่วง(จอยสติ๊ก)ควบคุมแบบ manual ได้ ระบบสายไฟควรตรวจเช็คอยู่เสมอและทำการเปลี่ยนสายไฟในปีที่ 6"

 

23 “อาคารจอดรถซึ่งติดตั้งระบบเคลื่อนย้ายรถด้วยเครื่องจักรกล” มีความหมายอย่างไรตามข้อกฎหมาย

A สิ่งก่อสร้างหรือโครงหรือเครื่องจักรกลที่สร้างขึ้น หรือติดตั้งขึ้นเพื่อใช้เป็นที่จอดรถหรือเก็บรถโดยใช้ระบบเครื่องกลในการนำรถไปจอดหรือเก็บ ทั้งนี้ให้รวมถึงแท่นหรือพื้นหรือโครงสร้างที่ทำขึ้นเพื่อใช้เป็นที่จอดรถคันเดียวหรือหลายคัน และไม่ว่าแท่นหรือพื้นหรือโครงสร้างดังกล่าวจะติดตั้งอยู่กับที่หรือสามารถเคลื่อนย้ายไปอยู่ในตำแหน่งต่างๆ ได้หรือไม่ก็ตามและให้รวมถึงแท่นกลับรถด้วยโดยจะติดตั้งอยู่ภายในอาคารจอดรถ หรือต่อเชื่อมกับอาคารจอดรถ หรือตั้งเป็นอิสระอยู่นอกอาคารก็ได้

 

24 กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอาคารที่จอดรถซึ่งติดตั้งระบบเคลื่อนย้ายรถด้วยเครื่องจักรกล มีกฎหมายฉบับใดบ้าง

1.กฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๑ (พ.ศ.๒๕๓๗)

2.ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ควบคุมอาคาร (พ.ศ. ๒๕๔๔) หมวด ๙

 

25 กฎหมายของอาคารที่จอดรถซึ่งติดตั้งระบบเคลื่อนย้ายรถด้วยเครื่องจักรกลมีลักษณะและแตกต่างกับอาคารจอดรถทั่วไปอย่างไรอย่างเด่นชัด

"ขนาดที่จอดรถ, เครื่องหมาย สัญลักษณ์และขอบเขตที่จอดรถที่ปรากฎบนพื้น, ความสูงของชั้นจอดรถ โดยลักษณะดังกล่าวไม่ต้องนำมาใช้บังคับกับอาคารจอดรถซึ่งติดตั้งระบบเคลื่อนย้ายรถด้วยเครื่องจักรกล (อ้างอิงตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๑ พ.ศ.๒๕๓๗)"

 

26 อาคารจอดรถซึ่งติดตั้งระบบเคลื่อนย้ายรถด้วยเครื่องจักรกล จะต้องมีระยะทางเดินรถจากปากทางเข้าออกของรถ หรือปากทางเข้าของรถ ถึงอาคารจอดรถไม่น้อยกว่าเป็นระยะทางเท่าใด

"A ต้องมีระยะของทางเดินรถจากปากทางเข้าถึงอาคารไม่น้อยกว่า๒๐ เมตร ยกเว้นกรณีอาคารจอดรถไม่เกิน ๒๐ คัน ระยะทางดังกล่าวจะต้องไม่น้อยกว่า ๖ เมตร และในกรณีอาคารจอดรถเกิน ๒๐๐ คันขึ้นไป ระยะทางดังกล่าวต้องไม่น้อยกว่า ๖๐ เมตร หรือพื้นที่จอด

รถได้ไม่น้อยกว่า ๑๐ คัน(อ้างอิงตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ควบคุมอาคาร (พ.ศ. ๒๕๔๔) หมวด ๙)"

 

27 การคิดความสูงของอาคารจอดรถ ซึ่งติดตั้งระบบเคลื่อนย้ายรถด้วยเครื่องจักรกลมีหลักเกณฑ์อย่างไร

A ให้คิดความสูงของอาคารจากระดับพื้นดินถึงส่วนที่สูงที่สุดของอาคารจอดรถและกรณีอาคารจอดรถซึ่งติดตั้งระบบเคลื่อนย้ายรถด้วยเครื่องจักรกลเชื่อมต่อกับอาคารอื่นให้คิดความสูงของอาคารจากระดับพื้นดินถึงส่วนที่สูงที่สุดของอาคารจอดรถ (อ้างอิงตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ควบคุมอาคาร (พ.ศ. ๒๕๔๔) หมวด ๙)

 

28 การคิดคำนวณพื้นที่อาคารจอดรถซึ่งติดตั้งระบบเคลื่อนย้ายรถด้วยเครื่องจักรกลมีหลักเกณฑ์วิธีคิดอย่างไร

"A ให้คิดพื้นที่ใช้จอดรถได้ ๑ คัน โดยคิดทุกคันรวมกัน และรวมถึงพื้นที่อื่นๆ ที่บุคคลอาจใช้สอยได้(อ้างอิงตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ควบคุมอาคาร (พ.ศ. ๒๕๔๔) หมวด ๙)"

 

29 พื้นหรือผนังของอาคารจอดรถซึ่งติดตั้งระบบเคลื่อนย้ายรถด้วยเครื่องจักรกล ต้องอยู่ห่างจากเขตที่ดินของผู้อื่นและถนนสาธารณะ

A ในกรณีที่มีความสูงของอาคารจากพื้นดินตั้งแต่ 23.00 เมตร ขึ้นไปต้องอยู่ห่างไม่น้อยกว่า 6.00 เมตรในกรณีที่มีความสูงของอาคารจากพื้นดินน้อยกว่า 23.00 เมตร ต้องอยู่ห่างไม่น้อยกว่า 3.00 เมตร(อ้างอิงตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๑ พ.ศ.๒๕๓๗)

 

30 การคำนวณออกแบบของระบบเคลื่อนย้ายรถด้วยเครื่องจักรกลต้องดำเนินการโดยผู้ใด 

A ต้องดำเนินการโดยผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพวิศวกรรมเท่านั้น(อ้างอิงตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๑ พ.ศ.๒๕๓๗)

 

31 การควบคุมการติดตั้งและตรวจสอบความปลอดภัยของระบบเคลื่อนย้ายรถด้วยเครื่องจักรกลต้องดำเนินการโดยผู้ใด

A ต้องดำเนินการโดยผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมประเภทสามัญวิศวกรขึ้นไปตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพวิศวกรรมเท่านั้น(อ้างอิงตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๑ พ.ศ.๒๕๓๗)

 

32 ระบบยกรถขึ้นลงระหว่างชั้นของอาคารด้วยลิฟต์ (CAR LIFT) และระบบเคลื่อนย้ายรถด้วยเครื่องจักรกล (Automatic Parking) มีความแตกต่างกันอย่างไร

A ระบบยกรถขึ้นลงระหว่างชั้นของอาคารด้วยลิฟต์ (CAR LIFT) ต้องมีคนเข้าไปในลิฟต์และดำเนินการนำรถออกมายังชั้นจอดรถที่ต้องการพร้อมทั้งต้องขับรถไปจอดในช่องจอดด้วยตัวเองเท่านั้น ด้านข้อกฎหมายบังคับให้มีลิฟต์1ตัวต่อจำนวนรถ30คันและอาคาร1หลังต้องมีลิฟต์อย่างน้อย2ตัว(อ้างอิงตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๑ พ.ศ.๒๕๓๗)

A ระบบเคลื่อนย้ายรถด้วยเครื่องจักรกล (Automatic Parking)ที่ได้รับการคำนวณออกแบบเพื่อใช้ประโยชน์ในการจอดรถโดยเฉพาะไม่ต้องมีคนนำรถขับไปหาช่องจอด โดยเป็นระบบการทำงานอัตโนมัติครบวงจรตั้งแต่การเข้าจอดรถและรับรถคืน โดยมี Robot พร้อมเครื่องลำเลียงรถทำหน้าที่แทนเจ้าของรถ ดังนั้นเจ้าของรถจึงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในชั้นจอดหรือขับรถหาช่องจอดรถเหมือนระบบยกรถขึ้นลงระหว่างชั้นของอาคารด้วยลิฟต์ (CAR LIFT)